วิธีการเลือกฟิล์มกรองแสง

 

การเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับติดกระจกบ้านหรืออาคารนั้น ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการของคุณ นี่คือปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกฟิล์มกรองแสง:

1. ความสามารถในการกรองแสงและความร้อน

  • ฟิล์มกรองแสง (Solar Control Film): เลือกฟิล์มที่สามารถป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากแสงแดดได้ดี เช่น ฟิล์มที่สามารถกรองแสงแดดได้ 60% หรือมากกว่านั้น เพื่อลดความร้อนที่เข้าไปในบ้าน

  • ค่า VLT (Visible Light Transmission): ค่า VLT เป็นเปอร์เซ็นต์ของแสงที่สามารถผ่านฟิล์มไปได้ ค่านี้ยิ่งต่ำ ยิ่งกรองแสงได้ดี (แต่อาจทำให้บ้านมืดลง) ค่าประมาณ 30% – 50% ถือเป็นการเลือกที่ดี หากต้องการให้ห้องมีแสงสว่างพอสมควร แต่ยังกรองความร้อนได้ดี

  • ค่า SHGC (Solar Heat Gain Coefficient): ค่านี้บ่งชี้ถึงการป้องกันความร้อนจากแสงแดด ยิ่งต่ำยิ่งดีในกรณีที่คุณต้องการป้องกันความร้อนจากแสงแดด

2. การป้องกันรังสี UV

  • ป้องกันรังสี UV: ฟิล์มที่ดีควรสามารถป้องกันรังสี UV ได้สูง เช่น ฟิล์มที่ป้องกันได้ถึง 99% หรือมากกว่า ซึ่งจะช่วยป้องกันการซีดจางของเฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุต่างๆ ในบ้าน และช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้

3. ความเป็นส่วนตัว

  • ความทึบแสง (Privacy): หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวหรือป้องกันสายตาจากภายนอก ฟิล์มที่มีความทึบแสง ในระดับความเข้ม 60% หรือ 80%จะช่วยลดการมองเห็นจากภายนอกโดยไม่ต้องปิดผ้าม่านหรือมู่ลี่

  • ฟิล์มสะท้อนแสง (Reflective Film): ฟิล์มที่มีความสะท้อนแสง ในระดับความเข้ม 60% หรือ 80% จะช่วยป้องกันการมองเห็นจากภายนอก และทำให้บ้านดูสวยงาม แต่ก็อาจทำให้ภายในมืดลงบ้างในบางกรณี

4. ความทนทานและความยาวนาน

  • อายุการใช้งาน: ฟิล์มที่เลือกควรมีอายุการใช้งานยาวนาน โดยส่วนมากฟิล์มคุณภาพสูงจะมีการรับประกันประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต

  • การทนทานต่อการขูดขีด: ฟิล์มกรองแสงบางรุ่นมีชั้นเคลือบที่ช่วยป้องกันการขูดขีด ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานและทำให้ฟิล์มดูใหม่ได้นานขึ้น

5. สไตล์และความสวยงาม

  • สีและการสะท้อนแสง: ฟิล์มกรองแสงมีหลายสี เช่น สีเงิน สีดำ หรือสีเทา ซึ่งสามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์ของบ้านหรืออาคารได้ บางฟิล์มมีการสะท้อนแสงที่ทำให้ตัวอาคารดูมีความทันสมัยหรือดูหรูหราขึ้น

  • ความสวยงามภายใน: เลือกฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการกระจายแสงให้เหมาะสม เช่น ฟิล์มที่ช่วยลดแสงจ้า แต่ยังคงให้แสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาได้

6. ราคา

  • ฟิล์มกรองแสงมีหลายระดับราคา โดยทั่วไปฟิล์มที่มีคุณสมบัติพิเศษ (เช่น ฟิล์มป้องกัน UV, ฟิล์มนาโนเซรามิค, ฟิล์มสะท้อนแสง) จะมีราคาสูงขึ้น ฟิล์มคุณภาพสูงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีในการประหยัดพลังงานและความทนทานที่ยาวนานกว่า

7. การรับประกัน

  • ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันของฟิล์มกรองแสงจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและการบริการหลังการขาย


สรุปวิธีการเลือก:

  • ถ้าต้องการลดความร้อนและแสงแดด: เลือกฟิล์มที่มีคุณสมบัติการควบคุมความร้อนและแสงแดด เช่น ฟิล์มนาโนเซรามิค หรือฟิล์มสะท้อนแสง

  • ถ้าต้องการป้องกัน UV: เลือกฟิล์มที่สามารถกรองรังสี UV ได้มาก เช่น ฟิล์มที่ป้องกัน UV สูงถึง 99%

  • ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว: เลือกฟิล์มที่มีความทึบแสง หรือฟิล์มสะท้อนแสง ที่มีระดับความเข้ม 60 หรือ 80% 

  • ถ้าต้องการประหยัดพลังงาน: เลือกฟิล์มที่ได้รับฉลากประหยัดงานเบอร์ห้าจากกระทรวงพลังงาน

การเลือกฟิล์มที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านการประหยัดพลังงานและความสวยงามค่ะ

Visitors: 668,876