เป็นฟิล์มที่มีส่วนผสมของโลหะ ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไทเทเนียม เงิน อลูมิเนียม (ไม่ใช่สารปรอทที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ) ซึ่งช่วยสะท้อนความร้อนออกไปได้ดีมาก แต่ด้วยความเงาของฟิล์มอาจไปสะท้อนหรือรบกวนสิ่งรอบข้างของอาคาร

เมื่อเวลาพระอาทิตย์ตกลงกระทบบนกระจก(แต่จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น) ทั้งนี้ก็ควรเลือกอัตรา % การสะท้อน ไม่มากจนเกินไป เพราะฟิล์มปรอท มีอัตราการสะท้อนแสง (ความเงา) ตั้งแต่น้อยมากไปจนถึงสูงสุด และมีความเข้มให้ลูกค้าเลือก ตั้งแต่ใสไปถึงเข้มสุด

 

เป็นฟิล์มกรองแสงที่มีอนุภาคนาโนเซรามิค ซึ่งมีคุณสมบัติในการตัดรังสีความร้อนได้โดยเฉพาะ โดยไม่ต้องอาศัยการสะท้อนของแสงเหมือนฟิล์มโลหะ ผลที่ได้ทำให้ฟิล์มกรองแสงนาโนเซรามิคที่มีการสะท้อนแสงน้อย ไม่เงา ไม่มีปรอท ทำให้การมองผ่านกระจกไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน จะมีความคมชัด ดีกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วๆ ไป และอนุภาคนาโน 

เซรามิคยังมีความทนทานต่อความร้อนสูง ไม่เสื่อมสภาพ ทำให้ฟิล์มที่ทำจากนาโนเซรามิคนั้น มีความทนทานกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วๆ ไป ที่สำคัญ สีฟิล์มจะไม่ซีดจาง และการป้องกันความร้อนก็จะป้องกันได้สม่ำเสมอ ตลอดอายุการใช้งาน โดยฟิล์มเซรามิค จะมีความเข้ม ตั้งแต่ใสไปจนถึงเข้มสุด เช่นกัน 

 

ฟิล์มกรองแสงที่ถูกพัฒนามาเป็นฟิล์มที่มีส่วนผสมของสสารซึ่งช่วยป้องกันรังสีอันตราย ทั้งรังสี UV และอินฟาเรด และลดความร้อนได้สูง จึงช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ในบ้านและอาคาร ส่งผลให้ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า “ฟิล์มประหยัดพลังงาน” จึงเป็นคำนิยามใหม่ ลูกค้าที่เลือกใช้ฟิล์มประหยัดพลังงาน จึงไม่เพียงแค่ได้ความเย็นสบายจากความร้อนที่ลดลง และปลอดภัยจากรังสีอันตรายเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยเหลือสังคมด้วยการช่วยกันประหยัดพลังงานให้แก่โลกใบนี้ 

โดยฟิล์มชนิดนี้มีความโดดเด่นที่ต่างจากฟิล์มทั่วไปคือ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ฟิล์มประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ในการทดสอบฟิล์มกรองแสง ในประเทศไทย โดยศูนย์วิจัยและปฏิบัติการทดสอบพลังงานคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โดยการติดฉลากของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน 

โดยมาตรฐานดังกล่าวจะใช้เกณฑ์การวัดค่าสัมประสิทธิ์การส่งผ่านความร้อนจากแสงอาทิตย์ หรือ SHGC (Solar Heat Gain Coef-ficient) จะต้องมีค่าที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.45

 

เป็นฟิล์มที่มีความใส เนื้อฟิล์มมีความเคลียร์สูง แสงสะท้อนต่ำ มองเข้าออกได้ชัดเจน สามารถป้องกันความร้อนได้สูง และยังคงความใสสว่างไว้เหมือนเดิม ส่วนมากฟิล์มชนิดนี้ จะเป็นฟิล์มรุ่นพรีเมี่ยม ซึ่งค่อนข้างมีราคาสูงเมื่อเทียบกับฟิล์มกันร้อนประเภทอื่น

 

เป็นฟิล์มกรองแสง ที่เน้นกรองแสง ลดแสงจ้า ไม่สามารถป้องกันความร้อนได้ดี มักจะนิยมติดเพื่อบังตา บังแสง ไม่ให้ข้างนอกมองเข้ามาภายในได้(เฉพาะกลางวัน) แต่เรายังสามารถมองออกได้ชัดเจน ฟิล์มประเภทนี้ จะราคาไม่สูง

 

เป็นฟิล์มประเภทตกแต่ง เนื้อขาวขุ่น ติดเพื่อพรางตา บังตา ลดแสงจ้า ไม่สามารถมองผ่านเข้าออกได้ทั้งสองทาง ตลอดเวลา สามารถตกแต่งลายเส้นได้เพื่อความสวยงาม และยังสามารถป้องกันรังสียูวีได้อีกด้วย ซึ่งจะต่างจากสติคเกอร์ฝ้า เพราะวัสดุในการผลิตคนละชนิดกัน ฟิล์มฝ้าจะมีความทนทานมากกว่าสติคเกอร์ฝ้าในกรณีที่โดนแดดหรือ UV แรงๆ

 

ใช้เพื่อตกแต่งพรางตาเช่นเดียวกับฟิล์มฝ้า มีเนื้อขาวขุ่นเหมือนกัน แต่จะเหมาะกับการใช้งานภายใน ไม่โดนแดดหรือยูวีแรงๆ นิยมติดงานภายใน Office กั้นระหว่างห้อง หรือกระจกห้องน้ำเพื่อความส่วนตัว และยังสามารถแต่งลายเส้น พิมพ์อิงค์เจ็ท หรือไดคัทตัวอักษร โลโก้ได้ ราคาจะถูกกว่าฟิล์มฝ้า

 

เป็นฟิล์มทึบแสง 100% แสงไม่สามารถผ่านกระจกเข้ามาได้เลย เหมาะกับหน้างานที่ต้องการปิดบังแสงที่ลอดผ่านให้สนิท และยังป้องกันความร้อนและรังสียูวีได้ดีอีกด้วย

 

เป็นฟิล์มสีเหลืองโปร่งแสง มีคุณสมบัติในการป้องกันแมลง ไล่แมลง ไม่ให้เข้ามาในห้องหรือตัวอาคาร เหมาะกับ โรงงานอุตสาหกรรม ประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ฟิล์มชนิดนี้ยังสามารถป้องกันรังสียูวีและความร้อนได้ และเป็นฟิล์มกึ่งนิรภัยในตัว เวลากระจกแตกร้าว จะสามารถป้องกันการแตกกระจกของเศษกระจกไว้ได้

 

Visitors: 383,763